ภาพจากกล้องวงจรปิด เวลา 09.30 น. ของวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา สามารถจับภาพชายวัยรุ่นปีนบ้านซึ่งตั้งอยู่ในโครงการบ้านจัดสรรแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ซึ่งไม่มีคนอยู่อาศัย ข้ามมายังบ้านที่อยู่ด้านข้าง จังหวะนั้น นางสาวปวิตรา อายุ 39 ปี เจ้าของบ้านอุ้มลูกน้อยวัย 9 เดือน ออกมายังหลังบ้าน เมื่อคนร้ายเห็นจึงปีนกำแพงข้างบ้านข้ามมายังบ้านนางสาวปวิตรา ทันที ทำให้ต้องอุ้มลูกวิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิต

คนร้ายก็พยายามวิ่งตามไปอีกมุมของบ้านและพยายามเปิดประตู แต่เปิดไม่ออก โชคดีขณะนั้นมีคนวิ่งเข้ามาช่วยเหลือจับตัวคนร้ายไว้ได้ทัน หลังจากนั้นทางผู้เสียหายได้นำมาโพสต์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมยังมีการพูดถึง อยู่บ้านราคา 10 ล้าน ยังไม่ปลอดภัย
ล่าสุด (2 ก.พ.64) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียน จึงเดินทางเข้าพบ นางสาวปวิตรา เล่าว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าว มีกล้องวงจรปิดจับภาพเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน จึงอยากให้เรื่องราวดังกล่าวเป็นอุทาหรณ์เตือนภัยให้กับคนอื่นๆ ว่า แม้แต่อยู่ในบ้านของตนเองก็ไม่ได้ปลอดภัยเสมอไป ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุคือคนงานที่ทำงานก่อสร้างให้กับหมู่บ้าน ซึ่งทางโครงการจะมีประตูด้านหลังโครงการให้คนงานเดินเข้ามาทำงานได้  โดยจะมี รปภ.เฝ้าไว้  แต่วันเกิดเหตุ รปภ.ก็บอกว่าเห็นท่าทีคนร้ายไม่ปกติ ไม่น่าไว้ใจ  แต่ก็ให้เข้ามา เพราะเห็นเป็นคนงานที่ทำงานกับหมู่บ้านมานาน 4-5 ปี

ทุกวันนี้ตนอยู่บ้านด้วยความหวาดระแวง ได้ยินเสียงอะไรก็พาหลอนไปหมด เพราะยังคงหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คิดอยู่เสมอว่าซื้อบ้านราคาหลัก 10 ล้าน เพราะต้องการความปลอดภัย แต่ในครั้งนี้กลับทำให้รู้สึกว่าคิดผิดมากที่ยอมจ่ายเงินขนาดนี้  ซึ่งทางเจ้าของโครงการก็ยังไม่ออกมาขอโทษ หรือออกชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

อยากฝากเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับทุกคนว่า แม้แต่อยู่ในบ้านตนเองก็ใช่ว่าจะปลอดภัย ให้ล็อกประตูบ้านให้แน่นหนา ยังโชคดีที่ตนรอดมาได้แบบหวุดหวิด   

ส่วนคนร้าย ทราบชื่อ คือนาย เทดเพียงโอ แพน สัญชาติเมียนมา อายุ 26 ปี วันเกิดเหตุไปดื่มสุรามาทั้งคืนแล้วหายออกไปจากแคมป์ คนงานช่วยกันตามหาแต่ก็ไม่พบ จนสุดท้ายวนมาดูบริเวณจุดเกิดเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกายแต่ก็ไม่พบ จึงทำการแจ้งข้อกล่าวหาบุกรุกเคหสถาน และทำการส่งตัวฟ้องศาลดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว